ปัจจุบันนอกจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นแล้วยังมีภัยเงียบอื่นอีกที่พวกเราชาวกรุงเทพฯ หรือที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง แหล่งอุตสาหกรรม ยังต้องเผชิญมานานแล้วอย่าง ‘มลพิษทางอากาศ’
มลพิษทางอากาศ หรือ Air Pollution หมายถึง ภาวะอากาศที่มีสารเจือปนอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าระดับปกติเป็นเวลานานพอที่จะทำให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์ สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินต่าง อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ฝุ่นละอองจากลมพายุ ภูเขาไฟระเบิด และกรณีที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ได้แก่ มลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์, ควันดำจากโรงงานอุตสาหกรรม, การเผาขยะทางการเกษตร โดยสิ่งเหล่านี้มักก่อให้เกิดฝุ่นละอองและก๊าซพิษต่างๆที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งแบบทันทีและสะสมภายในร่างกาย
1. ฝุ่นละออง
PM 2.5 คือฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน กล่าวคือมีขนาดเล็กมากๆจนเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า PM 2.5 ก็มักมาจากควันท่อไอเสียรถยนต์, โรงงานไฟฟ้า, โรงงานอุตสาหกรรม, ควันที่เกิดจากการหุงต้มอาหารด้วยฟืน, ควันจากการเผาขยะ, ไฟป่า และด้วยขนาดเล็กมากจึงสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูกไปยังหลอดลม และลงลึกจนถึงถุงลมปอดและซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- รู้สึก แสบตา แสบจมูก เจ็บคอ
- โรคทางระบบทางเดินหายใจ, ภูมิแพ้อากาศ กำเริบได้ง่าย
- ในระยะยาวมีผลทำให้เกิดโรคมะเร็ง, โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้
2. ก๊าชคาร์บอนมอนอกไซค์ Carbon Monoxide, CO
เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสแต่มีความเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อระบบเลือดถ้าได้รับในปริมาณที่มากจะทำให้เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำขึ้นได้ การที่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซค์คั่งในเลือด ทำให้เลือดเป็นกรดและกระตุ้นระบบหายใจทำให้หายใจเร็วขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้นและฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงส่วนที่เหลือไม่ปล่อยออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย ขาดออกซิเจนเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายทำงานผิดปกติ ก๊าซชนิดนี้มักเกิดจากการเผาไหม้คาร์บอนไม่สมบูรณ์จากเชื้อเพลิงต่างๆ เช่น เตาถ่าน เครื่องยนต์ สารเคมี
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- เวียนศีรษะ คลื่นใส้ อาเจียน ปวดท้อง
- เจ็บแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หมดสติ
- ชัก โคม่าและอาจเสียชีวิตที่สุด
3. ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ Hydrogen Sulfide, SO
เป็นก๊าซไข่เน่าที่มีแหล่งกำเนิดมาจาก โรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตสารเคมีต่างๆไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นสารเคมีที่มีอันตรายสูงมากก๊าซชนิดนี้ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้จะเข้าสู่ร่างกายด้วยการสูดดมเมื่อสูดดมปริมาณมากๆอาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรงต่อจมูก ลำคอ ทำให้เกิดการสะสมของเหลวลงปอดเป็นอันตรายอย่างมากกับชีวิต
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ระคายเคืองตา เยื่อบุทางเดินหายใจ
- ตาแดง เจ็บคอ คลื่นใส้ ปวดศีรษะ
- หมดสติ และหยุดหายใจ
4. ก๊าซไฮโดรเจนไซยาไนด์ Hydrogen Cyanide
ถือว่าเป็นก๊าซที่อันตรายมากไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกิดจากการเผาไหม้จากพลาสติก ยาง เส้นใย ขนสัตว์ หนังสัตว์ และไม้บางชนิด ก๊าซชนิดนั้นลอยอยู่ในอากาศสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางการหายใจ การกิน และการซึมผ่านผิวหนังหากได้รับเข้าไปปริมาณมากจะมีฤทธิ์ยับยั้งการหายใจในระดับเซลล์ ทำให้เซลล์ในร่างกายขาดออกซิเจนจนทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายตายได้
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- มีอาการมึนงง หายใจเร็ว อาเจียน ปวดหัว
- แสบคอ แสบจมูก แน่นหน้าอก ง่วงซึม
- ความดันต่ำลง เหนื่อยหอบ
5. ก๊าซโอโซน Ozone, O3
หลายคนเข้าใจผิดว่าโอโซนหมายถึงอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดมากๆ หายใจเอาเข้าไปจะรู้สึกสดชื่น อันที่จริงแล้วโอโซนไม่ใช่อากาศที่เราควรหายใจเอาเข้าไปในปอด โอโซนถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสารพิษในอากาศ เพราะเป็นก๊าซที่อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจเพราะโอโซนที่หายใจเอาเข้าไปมีก๊าซพิษและฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ก๊าซโอโซนจึงมีฤทธิ์ก่อให้เกิดเยื่อระบบทางเดินหายใจอักเสบทำให้ความสามารถของปอดในการรับก๊าซออกซิเจนเจนลดลง
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- โรคหืดในเด็กเล็ก เหนื่อยง่าย
- โรคปอดเรื้อรัง ปวดศีรษะ คลื่นไส้
- ระคายเคืองคอ ไอ ปอดอักเสบ
6. สารอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ Volatile Organic Compounds, VOCs
สารชนิดนี้จะมีอยู่รอบๆตัวเราในชีวิตประจำวันทั่วไปเช่นสีทาบ้าน ควันบุรี่ ตัวทำลายของหมึกพิมพ์ น้ำยายืดผม ควันรถยนต์ สารVOCs มีคุณสมบัติการระเหยกลายเป็นไอได้ง่ายจึงส่งผลทำให้สารชนิดนี้ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมเกิดเป็นมลพิษและส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์อีกด้วย สารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ 3 ช่องทาง ทางการหายใจ การรับประทานอาหาร การสัมผัส สารชนิดนี้จะค่อยซึมเข้าสู่ร่างกายปริมาณน้อยแต่ได้รับต่อเนื่องทำให้เกิดการเสื่อมของเนื้อเยื่ออวัยวะภายในได้ เรียกว่า การเกิดพิษเรื้อรัง
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
- การอักเสบและการระคายเคืองเรื้อรัง
- ทำให้เกิดมะเร็งของระบบทางเดินหายใจ การเสื่อมของอวัยวะ
เราจะสามารถดูแลตัวเองจากก๊าซพิษต่างๆและฝุ่นได้อย่างไร?
เมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องออกจากบ้านอย่างแรกคือการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเขม่าควันและฝุ่นละออง หรือหลักเลี่ยงการเข้าไปที่มีก๊าซพิษ ปัจจุบันหมู่บ้านต่างๆได้เกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งยังอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย การที่เราจะหลีงเลี่ยงคงเป็นไปได้ยาก
เราจึงขอแนะนำตัวช่วยดีๆคือเครื่องเติมอากาศ Pure Air เป็นตัวช่วยดีๆที่จะเข้ามาช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น เครื่องเติมอากาศ Pure Air ในห้อง เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ปิดอย่างห้องอน ห้องทำงาน ห้องเรียน ที่มีการรวมตัวกันเยอะๆ
มลภาวะต่างๆ เป็นสิ่งที่เราเลี่ยงได้ยาก ในยุคนี้จะหันไปทางไหนก็เจอทั้งฝุ่น และก๊าชพิษเป็นจำนวนมากไหนจะเป็นเชื้อโรคต่างๆที่ลอยอยู่ในอากาศและสามารถเข้ามาภายในบ้านหรือภายในห้องถึงแม้ว่าจะปิดประตูหน้าต่าง เครื่องเติมอากาศ Pure Air ของเราสามารถกรองมลพิษกรองฝุ่นเชื้อโรคต่างๆก่อนเติมเข้าในห้องทำให้ห้องเป็นห้องความดันบวกอากาศที่เติมเข้ามาผ่านชั้นฟิลเตอร์จะมาแทนที่อากาศที่อยู่ภายในห้อง อากาศเดิมที่อยู่ภายในห้องอยู่ภายในห้องจะไหลออกผ่านช่องประตูหน้าต่าง ลดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ