การป้องกันโรคภูมิแพ้ไม่ให้เกิดถือเป็นเรื่องที่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งแวดล้อม เช่นไรฝุ่น ฝุ่น ควันบุรี่ หรืออาหารบางชนิดก็สามารถทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ นม ไข่ ถั่ว อาหารทะเล อาการของโรคภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง เป็นๆหายๆ เช่น จาม หรือน้ำมูกไหลตอนเช้า หรืออากาศเปลี่ยนแล้วไอ ซึ่งโรคภูมิแพ้อากาศนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัยและมักมีอาการกำเริบเมื่อร่ายกายอ่อนแอ หรือภูมิต้านทานต่ำ เพื่อช่วยลดและป้องกันอาการของโรคภูมิแพ้ไม่ให้กำเริบหรือเป็นมากขึ้นสามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ได้ง่ายๆ ด้วย 15 วิธีดังนี้
15 วิธี ป้องกันลูกรักจากภูมิแพ้
- บ้านพัก/ที่อยู่อาศัย ควรจัดให้โล่งสะอาด โดยเฉพาะห้องนอนควรมีเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น เพื่อลดฝุ่นที่จะมาเกาะตามเครื่องใช้ต่างๆ
- ควรลดการตกแต่งบ้านด้วยวัสดุที่มาจากขนสัตว์ ผ้าม่านหนา หรือการปูพรมในบ้าน
- ควรทำความสะอาดห้องนอนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและไม่ควรนำตุ๊กตาที่มีขนเยอะๆมาวางไว้ในห้องนอน
- หากใช้เครื่องปรับอากาศ ควรปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ ไม่ควรให้ร้อน/หรือเย็นจนเกินไปและควรทำความสะอาดตามระยะเวลาการใช้งาน และไม่ควรใช้ร่วมกับพัดลม เพราะจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย
- ทำความสะอาดบ้านหรือห้องนอนด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ ไม้กวาดเพราะจะทำให้ฝุ่นลอยอยู่ในอากาศและควรใช้ผ้าปิดจมูกทุกครั้งที่ทำความสะอาดบ้าน
- ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดที่มีขนไว้ในบ้านหรือห้องนอน เช่น สุนัข แมว นก
- การเข้านอนควรอาบน้ำ สระผม เพื่อกำจัดฝุ่นละอองต่างๆที่ติดตามร่างกายมาตลอดทั้งวัน
- งดการสูบบุรี่ในบ้าน ไม่เพียงทำให้เกิดภูมิแพ้ ยังทำให้คนในบ้านอาจเป็นโรคร้ายได้ อย่าง โรคปอด, โรงมะเร็ง เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการใช้แป้งฝุ่นในห้องนอนหรือการฉีดน้ำหอมในห้องนอนเพราะจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย
- ทำความสะอาดบริเวณที่เป็นพื้นที่อับในบ้านเช่น ใต้ตู้เย็น ถังขยะในบ้าน ห้องครัว ห้องน้ำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของเชื้อรา
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่ตรวจพบว่ามีค่าเฉลี่ยของ PM 2.5 แนะนำให้เช็คค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านหากหลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใส่หน้ากาก N95
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอเพิ่มภูมิด้วยการออกไปรับแสงแดดอ่อนยามเช้า และทานอาหารที่มีประโยชน์
- ใช้น้ำเกลือล้างจมูกทำต่อเนื่องทุกๆวันสามารถช่วยรักษาอาการภูมิแพ้ให้เบาลงได้
- ล้างมือทุกครั้งหลังจากสัมผัสสัตว์เลี้ยงหรือทำความสะอาดบ้าน
- หลีกเลี่ยงการเข้าไปในห้องที่พึ่งทำความสะอาดเสร็จเพราะฝุ่นจะยังฟุ้งอยู่ในอากาศควรรออย่างน้อย 20 นาที เพื่อรอให้ฝุ่นที่ฟุ้งตกลงสู่พื้นให้หมดก่อน
การดูแลตัวเองจากโรคภูมิแพ้ ที่ดีที่สุดคือการพยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ทานอาหารที่ดี ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอรักษาสุขภาพจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส หรือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีหรือใช้ฟอกอากาศหรือเติมอากาศเพื่อช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ หรือถ้ามีอาการมากควรพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทานยาบรรเทาอาการ การดูแลตัวเองจากโรคภูมิแพ้นอกจากจะทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นด้วย และยังสามารถป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย
อ้างอิง: Nakornthon, Vichaiyut