PM 2.5, เผาอ้อย, ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม, ไอเสียจากรถยนต์ ล้วนเป็นปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศไทยมานาน แล้วยิ่งปัจจุบันยังมีเจ้าไวรัสโควิด-19 (CoronaVirus-19) ที่สามารถล่องลอย และแพร่เชื้อในอากาศได้นานเป็นวันอีก ทำให้หลายๆคนก็ต้องหันหาตัวช่วยในการป้องกัน ซึ่งนอกจากการที่เราต้องสวมหน้ากาก และล้างมือบ่อยๆแล้ว เวลาเราอยู่บ้านก็ไม่ควรประมาท หลายคนจึงเริ่มมองหาอุปกรณ์ช่วยเหลือ เพื่ออากาศที่ดีภายในบ้าน อย่างเช่น เครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศจากภายนอก(เครื่องเติมอากาศ) เครื่องเติมไอออน เป็นต้น ว่าแต่เจ้าเครื่องพวกนี้มันทำงานยังไงกันนะ มีข้อดี-ข้อเสีย ยังไงบ้างนะ วันนี้เรามีคำอธิบายง่ายๆในอ่านกันค่ะ
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
มาเริ่มกันที่เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องกรองอากาศ สุดยอดแห่งความฮิต ข้อดีที่เห็นได้ชัดๆเลยคือ หาซื้อง่าย มีหลากหลายราคา(ตั้งแต่ถูกยันแพง) มีหลายขนาด (ตั้งแต่จิ๋วยันใหญ่เว่อร์) ใช้งานง่าย เสียบปลั้กแล้วเปิดได้เลย! แต่เดี๋ยวก่อน มันได้ผลจริงๆใช่มั้ยนะ? – คำตอบ คือ ได้ผลจริงๆเพราะเครื่องฟอกอากาศอาศัยหลักการดูดลมที่อยู่รอบๆเครื่อง ผ่านฟิลเตอร์ และปล่อยลมสะอาดออกมา ทุกอย่างฟังดูดีและง่ายใช่มั้ยคะ แต่ช้าก่อนค่ะ! ลองคิดดูว่าลมที่ปล่อยมาเนี่ยไปไหนต่อ… ใช่ค่ะ มันก็ไปผสมกับอากาศเสีย (อากาศเสีย=อากาศที่ยังไม่ผ่านเครื่องฟอก) ที่อยู่ในห้องต่อไปค่ะ ทำให้ถ้าเราอยากอากาศบริสุทธิ์จริง คงต้องพกน้องติดตัวไว้ตลอดเวลา แถมข้อจำกัดอีกอย่างของเครื่องฟอกอากาศก็คือขนาดของฟิลเตอร์ค่ะ เนื่องจากด้วยเครื่องฟอกอากาศมาพร้อมขนาดที่จำกัด ทำให้ฟิลเตอร์ก็ต้องเล็กตามไปด้วย ดังนั้นถ้าคุณเคยเปิดเครื่องฟอกอากาศแล้วรู้สึกว่าช่วงแรกเนี่ยรู้สึกได้ว่าฝุ่นน้อยลง แต่ไหงผ่านไปไม่กี่เดือน(หรืออาจจะสัปดาห์) ฝุ่นกลับมาเยอะเหมือนเดิมแล้วเนี่ย นั่นเป็นเพราะว่าฟิลเตอร์เต็มค่ะ เต็มไปด้วยฝุ่นที่ดูดมาตลอด มีวิเคราะห์เครื่องฟอกอากาศให้อ่านกันต่อด้วยนะคะ ส่วนสรุปง่ายๆก็ตามนี้เลยค่ะ
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าประจุลบ (Air Ionizer)
ถัดมาคือเครื่องเติมไอออน หรือ Ionizer เคยเห็นคำโฆษณากันมั้ยคะว่าใช้การปล่อยประจุ Ion แล้วจะช่วยดักจับฝุ่น ทางเราขออธิบายหลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆเลยนะคะ ก็คือเครื่องนี้จะปล่อยไฟฟ้าประจุลบ (Negative Ion) ออกมาจับกับไฟฟ้าประจุบวก (Positive Ion) ที่มีอยู่แล้วในอากาศ พอมันรวมตัวกันแล้วก็จะมีโอกาสตกลงพื้นมาขึ้น ช่วยลดการฟุ้งตัวอยู่ในอากาศค่ะ แต่ว่าข้อจำกัดที่น่ากลัวของเครื่องนี้ก็คือ พอใช้งานไปเรื่อยๆ เครื่องอาจจะปล่อยโอโซน (Ozone) ออกมากค่ะ ซึ่งOzone ไม่เท่ากับ Oxygen นะคะ โอโซนเป็นก๊าซที่จะทำลายเซลล์ประสาท เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ปอด ดวงตา รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราด้วยค่ะ
เครื่องเติมอากาศ หรือ เครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคาร
สุดท้ายก็คือ เครื่องเติมอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคาร (Fresh Air Unit/Outdoor Air Unit) หลักการทำงานง่ายๆเลยก็คือดึงอากาศใหม่จากด้านนอกมาผ่านฟิลเตอร์แล้วเติมเข้าสู่ภายในห้อง ทำให้ห้องกลายเป็นความดันบวก ดันอากาศเสียภายในห้องออก ฝุ่นละออง ไวรัส ด้านนอกไม่สามารถเข้าสู่ห้องได้ ทำให้อากาศภายในห้องสะอาด ปลอดฝุ่น ไวรัส และยังลดก๊าซพิษที่สะสมภายในห้องอีกด้วย ช่วยลดการเกิภูมิแพ้อากาศ พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ รับออกซิเจนได้อย่างเต็มปอด ส่วนข้อเสียก็คือต้องมีการติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญค่ะ เพราะเป็นการดึงอากาศใหม่จากภายนอกเข้าสู่ห้อง ดังนั้นจึงต้องมีการเดินท่อและวางตำแหน่งที่เหมาะสม
สรุป
เครื่องฟอกอากาศ
ข้อดี
- หาซื้อง่าย ขนาดเล็ก ใช้งานได้ทันที
- ช่วยฟอกอากาศรอบๆให้บริสุทธิ์
- ยับยั้งการเกิดแบคทีเรียในอากาศ
ข้อเสีย
- ฟอกได้เฉพาะอากาศที่อยู่รอบๆ
- อากาศเสียสะสมอยู่ในห้องเหมือนเดิม
- ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อย
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าประจุลบ
ข้อดี
- ลดการฟุ้งของฝุ่นในอากาศ
- ใช้งานได้ทันที
- ไม่ต้องซ่อมบำรุง
ข้อเสีย
- ฝุ่นไม่ได้หายไป
- อาจมีก๊าซโอโซนรั่วไหล เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ดวงตา
เครื่องเติมอากาศ
ข้อดี
- เติมออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าสู่ห้อง
- ฝุ่นละออง ไวรัส ไม่สามารถไหลเข้าสู่ห้องได้
- ลดการเกิดภูมิแพ้
- ดันก๊าซพิษ กลิ่นอับออกจากห้อง
ข้อเสีย
- ไม่สามารถติดตั้งเองได้
- เพิ่มการทำงานของแอร์เล็กน้อย